• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

8 สิ่งที่ได้รู้ จากการเป็นลูกจ้างมาครึ่งชีวิต

Started by Cindy700, April 04, 2023, 03:46:31 PM

Previous topic - Next topic

Cindy700

1. เนื่องจากพวกเราไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อปฏิบัติงานอย่ างเดียว

เราไม่ได้ดำเนินการแล้วแฮปปี้ทุกๆวัน บ่อยที่พวกเรากลับไปบ้ า นแล้วอย ากจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แม้กระนั้นหากเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต ดังเช่น วิ่งมาราธอน, ปลูกต้นไม้ และก็ยังรวมทั้งต่อ ป.โท

การเปลี่ยนโหมดมาทำเรื่องที่เราชอบจะทำให้ร่าเริงแจ่มใสขึ้น แล้วก็ เพิ่มความเชื่อมั่นและมั่นใจ เพราะเหตุว่าการเฟลจากที่ดำเนินการส่วนมากมักทำให้พวกเราท้อแท้ใจ และก็ขาดความมั่นใจและเชื่อมั่นในตนเองในตนเอง ส่วนตัวเรามันส่งผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน และก็ อีกมากมาย


ยกตัวอย่ าง... มีเพื่อนคนนึงชอบตัดเย็บเสื้อผ้ามากมาย เป็นจริงเป็นจังขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร ์อาทิตย์ ขณะนี้ดำเนินการประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย จนบัดนี้เปิดร้านขายออนไลน์สร้างเป็นอาชีพเสิรมที่มีรายได้มากยิ่งกว่างานประจำไปละ

2. หัวหน้าก็คนนะ.. ทราบยัง

สำหรับมนุษย์เงินเดือนตัวจ้อยอย่ างพวกเรา สิ่งที่เราเคารพที่สุดในที่ทำงานก็น่าจะหนีไม่พ้นนายจ้าง ผู้ที่เป็นหัวหน้างานเองก็มีนิสัยแตกต่างกันไป อย่ างตัวเราเคยเจอทั้งที่แบบขึ้นชื่อว่าโ ห ด สุดๆทำงานมาก ไปจนถึงวันๆไม่ทำการทำงาน คอยสั่งคนนู้นหนคนนี้หน แต่ว่าพอใช้ดูดีๆเราก็พบว่า เฮ้ย หัวหน้าก็คนนี่หว่า

แม้กระนั้นคนๆนี้มันจะมาบ่นว่าขี้เกียจคร้านตื่น หรือโดนนายสั่งงานเยอะแยะมิได้ยังไง ทำไมน่ะเหรอ นอกเหนือจากที่จะโดนหัวหน้าของเค้าเองกระเหม่นแล้ว ลูกน้องก็ยังจะไม่ให้ความเคารพนับถือด้วย หนำซ้ำบางทีก็อาจจะระรานกันเสียระบบการปกครองทั้งทีม


ถ้าหากให้เสนอแนะก็อย ากจะกล่าวว่าพย าย ามเข้าใจเค้าดีกว่าว่าเค้าก็เป็นมนุษย์อย่ างพวกเราๆนี่แหละ เป็นคนดีบ้ า งคนพาลบ้ า ง นิสัยก็ต่างกันบ้ า งเป็นเรื่องปกติ อย่ าเห็นว่าเรากับเค้าอยู่คนละขั้วกัน อย ากให้มองในมุมที่ว่าถ้าเกิดพวกเราไม่ทำงานให้เค้า เค้าจะเอางานที่แหน่งใดไปส่งละ จริงๆหัวหน้าเลิกงานก็อย ากกลับบ้ า นไปพบครอบครัว

มิได้อย ากอยู่มืดค่ำๆให้ผู้ที่บ้ า นเป็นห่วงหรอก เวลาว่างก็มิได้อย ากดำเนินงาน ก็อย ากไปเที่ยวเช่นกันนั่นแหละ แม้กระนั้นแค่ออกหน้าชอบบ่นแบบเราไม่ได้ ตำแหน่งมันค้ำคอ ลองนึกดู

แค่พวกเราพรีเซ็นท์งานกับหัวหน้าก็เกร็งจะแ ย่ นี่เค้าจะต้องเอางานเราไปเสนอกับหัวหน้าฝ่าย หรือ CEO ลูกน้องใครกันแน่ที่ช่วยแบ่งเบาภาระเค้าได้เยอะ เค้าก็จะรักคนนั้นเป็นธรรมดา

3. อย่ าเป็นตัวของตัวเองเหลือเกินในโลกออนไลน์

คนไม่ใช่น้อยมั่นใจว่าโลกโซเชียลเป็นหลักที่ส่วนตัว จะโ พ ส ต์ อะไรมันก็สิทธิ์ของพวกเรา แต่รู้รึเปล่าว่า HR ปัจจุบันนี้นอกจากจะมอง resume เราแล้ว ยังมองเ ฟ ส บุ ค ของเราด้วย เพื่อนพ้องพวกเราที่เป็น HR การันตีมาว่า Social media บอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงของพวกเราได้มากกว่า Resume เป็นสิบเท่า มองเห็นไหมว่าตัวตนบนโลกอินเตอร์เน็ต

ของเรานั้นมีผลกับพวกเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อเราเป็นพนักงานประจำเต็มกำลัง เรื่องเหล่านี้ยิ่งต้องระมัดระวัง อย่ างเราเป็นไม่แตะเฟสบุ้คเลย หรือหากจะโ พ ส ต์ /แ ช ร์อะไร ก็คิดแล้วว่าหากหัวหน้ามาเห็นก็ไม่เป็นไร


ถ้าเกิดอย ากมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆเสนอแนะให้แยกเฟสที่ทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาน้ำณพด้วย เนื่องจากว่า ส่วนมากคนภายในสถานที่สำหรับทำงานเค้าก็ขอแอดกันอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องดราม่าในสถานที่สำหรับทำงาน คนนั้นคนนี้ เบื่องาน หัวหน้าโง่เขลาเบาปัญญา ห้ามโ พ ส ต์ เด็ดขาด โ พ ส ต์ ปุ้บมีคนแคปปั้บแน่ๆ...!! เตือนแล้วนะ

4. โฟกัสที่ทางวิ่งของเรา พอใจ ตั้งใจ แต่... อย่ าเก็บทางวิ่งคนอื่นๆมาริษยา

ช่วงปีที่ผ่านมานี้ เพื่อนพวกเราผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเริ่มเรียนต่อ สร้างครอบครัว บางคนเปลี่ยนงานไปงานที่ค่าตอบแทนรายเดือนสูงสุดๆบางคนเริ่มธุรกิจของตนเอง บางโอกาสพวกเราเลื่อนมองหน้าเฟสและก็แอบคิดนะว่า เฮ้ย...!! คนนั้นคนนี้ก้าวหน้า แล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ แต่บอกเลยว่าชีวิตพวกเขาก็ไม่ได้ดีมากยิ่งกว่าเราหรอกดีไม่ดีสหายผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางครั้งอาจจะกำลังอิจฉาชีวิตพวกเราอยู่ก็ได้

เคยมีคนเดินมาบอกพวกเราว่าแหม ชีวิตดีจังนะ... เป็นตัวเราเองก็ไม่ได้คิดเลยว่าชีวิตเราดี สิ่งที่เราคัดกรองโ พ ส ต์ ลงโซเชียลนั่นแหละที่ดี จงจดจำไว้ว่าอย่ าเอาจังหวะชีวิตของพวกเราไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น

จุดโฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา รู้ว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร ทราบดีว่าจุดหมายเราอยากอะไร รู้ดีว่าวันนี้พวกเราปฏิบัติดีกว่าเมื่อวานแล้วหรือยัง ก็พอเพียงแล้ว แอบดูลู่วิ่งคนอื่นบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงก ร ะ ตุ้ น ให้พวกเราเป็นจริงเป็นจังกับชีวิตเพิ่มมากขึ้น แต่อย่ าเก็บมาเอาใจใส่จนเป็นทุกข์เพียงพอ

5. เล่นการเมืองกับทุกคน

เดี๋ยวก่อน...!! อย่ าเพิ่งจะตกอกตกใจไป.. เล่นการเมืองกับทุกคนไม่ได้หมายความว่า ให้เราไม่ต้องจิรงใจกับคนใดกันแน่ แต่ว่า... แสดงว่า " พวกเราไม่สนใจฝ่ายใด " อย่ างที่รู้กันว่าในที่ทำงานหลายๆที่

มีการเล่นพวก หรืออยู่ๆก็จะมีเสียงแว่วมาว่า คนนี้เด็กคนนั้น ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตุมาเป็นระยะเวลา 3 ปี พบว่าคนที่เล่นการเมือง (มากๆ) ส่วนใหญ่ไม่มีความสุข ยิ่งพวกที่ตำแหน่งโตๆแม้กระนั้นเล่นเค้าไว้เยอะนี่ห้ามเพลี่ยงพล้ำเลยจ๊ะ มีคนคอยซ้ำเยอะแยะเลย


" เล่นการเมืองกับทุกคน " ในความหมายนี่เป็น... การที่เรามองว่าคนนี้เป็นคนยังไง จะเข้ากับเขาได้อย่ างไร ไม่ได้บอกว่าให้สตอเบอร์รี่ หรือ ฝืนตนเอง แม้กระนั้น... แต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความพอใจ

โตมาในสังคมที่แตกต่างกัน การที่เราดูแล้วทราบว่าจะ " อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร " ได้อย่ างไรจะมีผลให้พวกเราเป็นต่อมากๆเว้นเสียแต่วางตัวง่ายแล้ว เราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมทั้งบางบุคคลที่ดูแล้วผิดจริตกัน

การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักทายสวัสดีตามมารย าท ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... พวกเราไม่เคยรู้หรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงพวกเราเข้าไปดำเนินการกับใคร เพราะฉะนั้น อย่ าสร้างศั ต รู เด็ดขาด ถึงไม่ได้ร่วมงานกันในบริษัทนี้ แต่ในอนาคต อาจได้โครจรมาร่วมงานกันในที่ใหม่ๆก็ได้

6. โดนด่าวันนี้ ดีมากยิ่งกว่าโดนดุตอนอายุ 50

ด้วยความที่อายุยังน้อย ความคาดหมายจากคนรอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย ถึงเราจะรู้สึกบีบคั้นสำหรับเพื่อการทำงานสุดๆแม้กระนั้นเชื่อเถอะ เราล้มเหลววันนี้ ดีมากกว่าเราไปล้มตอนอายุ 50 พี่ๆที่เขาอยู่จนกระทั่ง 50-60 ก็ผ่านขณะแบบพวกเรามาแล้ว

สิ่งที่อย ากจะแนะนำคือ.. ใช้เวลานี้ให้คุ้มค่า พวกเราไม่ได้อายุ 20 กว่าๆตลอดกาล อย ากทำอะไรทำ อย าคำอธิบายมอะไรโ ง่ๆก็ให้รีบถาม พรีเซ้นแล้วมันห่วยก็พรีเซ้นไปเรื่อยๆฝึกฝนไปเรื่อยๆโดนด่าทอขณะนี้

เ จ็ บ น้อยกว่าโดนด่าตอนอายุ 50 มากมาย หากแม้จะผิดพลาด ด้วยความยังเด็ก รวมทั้ง อ่อนประสบการณ์ คนโดยมากพร้อมจะยกโทษพวกเราเสมอ เพราะฉะนั้น ล้มเหลวเยอะๆเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

วามต่างกันระหว่าง " เพื่อน " กับ " เพื่อนร่วมงาน " เป็นอย่างไร ที่เค้ากล่าวว่ายิ่งโต ยิ่งหาสหายย ากก็คงจะจริง ยุคประถม การหาเพื่อนใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม และการหาเพื่อนพ้องในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันหมายความว่ายิ่งเราโตขึ้นเท่าใด เราจะหาเพื่อนย ากขึ้นแค่นั้น และไม่ต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนฝูงที่แท้จิตใจคนนึงในสำนักงานมันย ากมากแค่ไหน


นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องมีราวผลตอบแทน อีกทั้งตำแหน่ง เงินเดือน การประมาณ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของผู้คนค่าตอบแทนรายเดือนอย่ างพวกเราเป็นไปดำเนินการ ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานสัมพันธ์หาเพื่อนพ้อง ด้วยเหตุดังกล่าววันๆพวกเราจึงจะพบเพียงแค่สหายร่วมกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานเพียงแค่นั้น

เราโชคดีที่พบกลุ่มที่ดี คุยได้ทั้งยังเรื่องเฉพาะบุคคลและก็เรื่องงาน เรียกได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน รวมทั้งเพื่อนผู้ร่วมการทำงานในครั้งเดียวกัน การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้ววางใจแบบนี้ พวกเรามีความคิดว่ามันเป็นผลกำไรชีวิต พย าย ามหาคนพวกนี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดเดียวก็ยังดี ) ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่กลุ่มเดียวกันก็ได้ เพียงแค่ได้พบเห็น

พูดคุยแลกความเซ็งก็ดี ให้พวกเราลองถามตนเองว่า "หากเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย ากนัดหมายคนนี้ทานข้าวอยู่ไหม" ถ้าคำตอบคือใช่ ยินดีด้วย คุณเจอสหายจริงๆในสถานที่สำหรับทำงานแล้ว

7. หาผู้ที่เป็นมากกว่า " สหายร่วมงาน " ให้พบ แล้วจะอย ากไปทำงานมากขึ้น

ความแตกต่างระหว่าง " สหาย " กับ " เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน " เป็นอย่างไร ที่เค้าบอกว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนฝูงย ากก็คงจริง สมัยประถม การหาสหายใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม รวมทั้งการหาเพื่อนฝูงในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแสดงว่ายิ่งเราโตขึ้นเยอะแค่ไหน เราจะหาเพื่อนฝูงย ากขึ้นเพียงแค่นั้น

และไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนที่จริงใจคนนึงในออฟฟิศมันย ากขนาดไหน นอกเหนือจากการที่จะมีเรื่องผลตอบแทน อีกทั้งตำแหน่ง เงินเดือน การคาดคะเน เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของมนุษย์เงินเดือนอย่ างพวกเราคือไปดำเนินการ ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานสโมสรหาเพื่อนฝูง โดยเหตุนี้วันๆเราก็เลยจะพบแค่เพื่อนฝูงร่วมทีม ซึ่งโดยมากรวมทั้งเป็นการคุยกันแค่เรื่องงานแค่นั้น

เราโชคดีที่เจอทีมที่ดี คุยได้ทั้งยังเรื่องส่วนบุคคลรวมทั้งเรื่องงาน กล่าวได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน และก็เพื่อนร่วมงานในครั้งเดียวกัน การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้ววางใจอย่างงี้ เรามีความรู้สึกว่ามันคือกำไรชีวิต

พย าย ามหาคนพวกนี้ให้พบในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดหน่อยก็ยังดี ) ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่กลุ่มเดียวกันก็ได้ เพียงแค่ได้พบเจอ สนทนาแลกเปลี่ยนความเซ็งดีแล้ว ให้เราลองถามตัวเองว่า "ถ้าเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย ากนัดคนนี้กินข้าวอยู่ไหม" หากคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณพบเพื่อนฝูงจริงๆในที่ทำงานแล้ว

8. ควรเป็น " ลูกจ้างมืออาชีพ "

สรุปสั้นๆตามหัวข้อเลย หากอย ากบรรลุผลสำเร็จ และ แฮปปี้ ต้องเป็น " ลูกจ้างมืออาชีพ " ให้ได้ กล่าวง่ายแต่ทำย ากนะ เนื่องจากลูกจ้างมืออาชีพก็คือผู้ที่ใส่ใจได้ว่า " พวกเราถูกว่าจ้างมาด้วยเงินเดือนปริมาณหนึ่ง " นั่นถือว่าบริษัทเค้าอยากได้อะไรบางอย่ างจากเราแลกกับเงินเดือนนั้นๆ

เราจะต้องรู้ว่าบริษัทจ้างเรามาทำอะไร และ ทำมันให้ดีมากยิ่งกว่าที่บริษัทมุ่งหวังถ้าหากอยากความรุ่งโรจน์ในหน้าที่ ถ้าเกิดงานที่ทำอยู่รู้สึกว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของพวกเรา ก็ไม่ควรอดทนทำไป


ควรหางานที่เราทำแล้วพวกเรามีความสุขรวมทั้งทำเป็นดีเพื่อดึงประสิทธิภาพของตนเองออกมาให้สูงที่สุด นอกเหนือจากที่จะทำให้พวกเราเติบโตในหน่วยงานแล้ว ยังส่งผลให้เราพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาและไม่เบื่อด้วย

เมื่อถึงจุดๆหนึ่งพวกเราจะทราบเองว่าควรไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ชอบให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วพวกเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าบุคคลอื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกจำนวนกี่ครั้งก็ได้ ถ้าเกิดท้ายที่สุดพวกเราพบสายอาชีพที่เรารักรวมทั้งอย ากทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากมาย

รวมทั้งด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน " เราถูกจ้างมาด้วยค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง " อย่ าทำงานมากเกินกว่าค่าจ้างกระทั่งเกินความจำเป็น ทุ่มเทได้ แม้กระนั้นต้องมีคำตอบที่ดีตามออกมาด้วย เป็นต้นว่าได้ปรับค่าจ้างรายเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับบิดามารดา ญาติๆบ้ า ง หันกลับไปดูด้านหลังบ้ า งว่าผู้ที่เป็นบันไดให้เรามายืนจุดนี้ ในช่วงเวลานี้เค้าเป็นยังไงกันบ้ า งนะ...? อย่ าลืมว่าบิดามารดาอายุมากขึ้นทุกวี่ทุกวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย หากเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้คุณแล้วหาเวลาไป มันไม่ทุกข์ยากลำบากหรอก แลกกับความสำราญของพ่อแม่
ลูกน้อง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13457/